SCC กำไรไตรมาส 2 วูบหนัก 19% เหลือ 8,082 ล้านบาท ปันผลครึ่งปี 2.5 บาท
SCC ยื่นไฟลิ่ง SCG Decor เสนอขายไอพีโอ 444.1 ล้านหุ้น นำเงินขยายธุรกิจ
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ประกาศผลดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 66 มีรายได้จากการขาย 125,649 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,441 ล้านบาท ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง และสถานการณ์ตลาดในภูมิภาคคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ด้าน EBITDA อยู่ที่ 11,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ EBITDA Margins เท่ากับ 9% เมื่อเทียบกับ 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เมื่อรวม 9 เดือนแรกของปี 66 มีรายได้รวม 379,028 ล้านบาท ลดลง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรรวม 27,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
– ธรุกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง รายได้เท่ากับ 47,015 ล้านบาท ลดลง 9% สาเหตุหลักจากการไม่รวมยอดขายของ SCG Logistics และได้รับผลกระทบจากตลาดภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะที่เวียดนามและกัมพูชา ยอยอ
– ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) รายได้เท่ากับ 49,663 ล้านบาท ลดลง 13% ปัจจัยหลักจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และอุปสงค์ชะลอตัว ขณะที่อุปทานของกำลังผลิตใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าและส่วนต่างราคาขายอ่อนตัว
– ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) รายได้เท่ากับ 49,663 ล้านบาท ลดลง 17%
SCGP ราคาบรรจุภัณฑ์วูบ ฉุดกำไรลด 28% ไตรมาส 3 เหลือ 1,325 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือน ก.ย. บริษัทมีสินทรัพย์รวม 960,058 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากสิ้นปี 65 และมีหนี้สินรวม 499,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากสิ้นปี 65 ขณะที่เงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร เท่ากับ 99,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% จากสิ้นปี 65
อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 3/2566 (ก่อนสอบทาน)
ด้าน บล.เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SCC งวดไตรมาส 3 ปี 66 กำไรสุทธิ 2,441 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 3,739 ล้านบาทมาก ถึง 35% ปัจจัยหลักเกิดจากการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์โรงงานปูนซีเมนต์ในเมียนมาร์จำนวน 578 ล้านบาท หลังผู้ประเมินอิสระมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเมียนมาร์ หากไม่นับรายการนี้จะมีกำไรจากการดำเนินงาน 3,019 ล้านบาท +26%YoY ต่ำกว่าคาด 19%
แม้ SCC จะมีแนวทางชัดเจนในการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการโดยมุ่งเน้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ( High Value Added) และผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่มีความผันผวนของราคาต่ำกว่าสินค้าทั่วไป และให้ margin ที่สูงขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ SCC ก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง กระดาษบรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ดังนั้นผลประกอบการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงได้รับผลกระทบอย่าง มากจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่ปัจจุบันมีหลายปัจจัยลบที่เข้ามาซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อสงครามที่ปะทุขึ้นใหม่ในอิสราเอลซึ่งส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว นำไปสู่การปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยเริ่มมีความหวังเชิงบวกมากขึ้น หลังรัฐบาลจีนอนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาล มูลค่า 1 ล้านล้านหยวน หรือราว 5 ล้านล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะส่งผลบวกต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2567 และสร้าง Sentiment เชิงบวกให้กับบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 66 ของ SCC ยังคงไม่สดใส จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมีต้นน้ำและการรับรู้ค่าใช้จ่ายคงที่จากโครงการปิโตรเคมีแห่งใหม่ในเวียดนามที่ยังไม่สร้างกำไรในช่วงแรก แต่ราคาหุ้นที่ผ่านการปรับฐานลงมาแล้ว 15% นับตั้งแต่ต้นปี น่าจะเป็นการตอบรับปัจจัยลบเกี่ยวกับผล
ไกด์ไทยในเกาหลี เผย ปัจจัย ตม.เกาหลีแบนคนไทย
ย้อนพฤติกรรม 2 สส.พรรคก้าวไกล คุกคามทางเพศเหยื่อสาว!
พยากรณ์อากาศล่วงหน้า ฤดูหนาวเลื่อนไปก่อน! อากาศเย็นลงยังไม่ถึงกับหนาว